หน่วยที่ 1 ความเป็นไทย
เรื่อง ๒
ความเอื้อเฟื้อและเผื่อแผ่และความเสียสละต่อสังคม
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และความเสียสละ
เป็นคุณธรรมสำคัญที่คนในสังคมควรยึดถือและนำมาปฏิบัติต่อกัน
เพราะจะช่วยให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกคนต่างมีน้ำใจ
ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เกิดเป็นความรัก ความสามัคคี สังคมก็ย่อมเข้มแข็ง
มีความปลอดภัยและน่าจะอยู่ ทั้งนี้จะเกิดขึ้นได้ย่อมมาจากการปฏิบัติของทุกคน
๑.ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ย่อมเกิดจากจิตใจที่มีความรัก
ความเมตตา และความโอบอ้อมอารี แล้วปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเกื้อกูล
ซึ่งในการดำเนินชีวิตของเรานั้น ควรมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว
โรงเรียน หรือชุมชนก็ตาม
๑.๑
ลักษณะของผู้ที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
๑. เป็นคนมีน้ำใจ
มักให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่เสมอ
โดยการช่วยเหลือจะทำอย่างเต็มกำลังที่ตนเองสามารถช่วยได้ และไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
๒. คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
เป็นผู้ที่ถือเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ไม่กระทำสื่งใดๆ ที่เป็นการฉกฉวยผลประโยชน์ให้กับตนเอง
ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นได้
๓. มีความปราณี
ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ
มีไมตรีที่ดีต่อคนรอบข้างเสมอ ไม่ดูหมื่นเหยีดหยามผู้อื่น
แต่ให้ความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
๔. ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น
คิดและปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตา
มองโลกในแง่ดี ไม่กระทำในสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนหรือเสียมเสียต่อผู้อื่น
๑.๒ การปฏิบัติตนเป็นผู้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
การปฏิบัติตนเป็นผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
สามารถปฏิบัติได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนี้
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แผ่ในครอบครัว
- ไม่สร้างความเดือดร้อนหรือก่อปัญหาต่างๆให้เกิดในครอบครัว
- ช่วยเหลืองานบ้านต่างๆ ตามกำลังที่ได้
- ใช้เงินอย่างประหยัด เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย
- มีความห่วงใจต่อสมาชิกครอบครัวทุกคน
- รู้จัแบ่งปัน
ให้ความช่วยเหลือยามครอบครัวประสบปัญหา
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในโรงเรียน
- เชื่อฟังคำสังสอนของคุณครูและให้ความเคารพนับถือ
- แบ่งปันขนม อาหาร หรือสิ่งของต่างๆ ให้เพื่อน
- ช่วยแบ่งเบาภาระครู อาจารย์ เช่น ช่วยถือของ
- ให้ความรัก ความเป็นมิตรต่อเพื่อนในโรงเรียน
- มีส่วนร่วมในการช่วยงานกิจกรรมของโรงเรียน เช่น
งานกีฬาสี จัดนิทรรศการ งานไหว้ครู เป็นต้น
คมความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในชุมชนและสัง
- มีไมตรีจิตต่อเพื่อนบ้าน
รวมถึงคนในชุมชนเดียวกัน
- มีความเอื้อาทร และหวังดีต่อคนในชุมชน
- ดูแลรักษาสาธารณสมบัติส่วนร่วมของคนในชุมชนและสังคม
- มีน้ำใจ
คอยช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน
- แบ่งปัน อาหาร วัตถุสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ
ให้แก่เพื่อนบ้านและคนมในชุมชน
๑.๓
การแนะนำผู้อื่นให้มีส่วนร่วมให้มีส่วนร่วมแสดงออกในการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เราสามารถแนะนำและส่งเสริมผู้อื่นให้ปฏิบัติตนเป็นผู้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้
ดังนี้
๑. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นเสมอ
เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้อื่น
๒.
อธิบายความสำคัญของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และผลดีที่เกิดกับสังคมส่วนรวม
เมื่อเรามีความเอื้เฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น
๓.
แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู็มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยบอกวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องให้ผู้อื่นได้ทราบ
๔.
ยกเว้นตัวอย่างบุคคลที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นำมาบอกเล่าให้คนทั่วไปได้รับทราบ
๕.
ชักชวนบุคคลรอบข้างให้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อสังคม
๒. ความเสียสละ
ความเสียสละ
เป็นการให้ด้วยความเต็มใจและปรารถนาดีต่อผู้อื่น
โดยยอมเสียสละความสุขส่วนตยเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ความเสียสละจึงเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่คนในสังคมควรยืดถือเพราะจะช่วยให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
มีความเอื้ออาทรต่อกัน
๒.๑ ลักษณะของผู้ที่มีความเสียสละ
ผู้ที่ถือได้ว่ามีความเสียสละมีลักษณะ ดังนี้
๑. ไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีความละโมบโลภมาก
รู้จักแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากโดยเสียสละกำลังกาย กำลังทรัพย์
หรือองค์ความรู้
๒. เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม การกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสังคม
ไม่ถือเอาประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ไม่นำผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
๓. ไม่เอารัดเอาเปรียบ มีจิตใจกว้างขวาง เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ
ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่คำนึงถึงความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
๔. ยอมเสียสละความสุขของตนเอง
ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ย่อท้อต่อความลำบากหรืออุปสรรคต่างๆ
โดยคำนึงถึงความสุขของสังคมส่วนรวมเป็นหลัก
๕. เป็นผู้ให้อย่างแท้จริง รู้จักให้ผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน
หรือผลประโยชน์ใดๆ
๒.๒
การปฏิบัติตนเป็นผู้มีความเสียสละ
เสียลสละและทรัพย์สิน
- บริจาควัสดุ อุปกรณ์
เพื่อสร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร
- บริจาคอาหาร ขนม เครื่องดื่ม แก่เด็กกำพร้า
- บริจาคเงินทำบุญเพื่อบุรณะวัด
- บริจาคเครื่องนุ่งห่มแก่ผู้ประสบภัยหนาว
การเสียสละและแรงกาย
- ซ่อมแซมสาธารณสมบัติภายในชุมชน
- ปลูกต้นไม่เพื่อให้ร่มเงาแก่สถานที่สาธารณะ
- ช่วยขนย้ายสิ่งของเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยต่างๆ
- เก็บขยะ ทำความสะอาดถนน
และปรับภูมิทัศน์ภายในชุมชน
การเสียสละความรู้
สติปัญญา และจิตใจ
- ให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีปัญหาด้านต่างๆ
- ให้กำลังผู้ที่กำลังประสบภาวะเดือดร้อน
- แนะนำข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตให้ผู้อื่น
- เตือนสติให้ข้อคิดผู้ที่กำลังะกระทำในสิ่งที่ผิด
- ถ่ายทอดความรู้
ความถนัดของตนเองให้ผู้อื่นนำไปใช้ประโยชน์
๒.๓.
การแนะนำผู้อื่นให้มีส่วนร่วมในการเสียสละ
เราควรแนะนำผู้อื่นให้ปฏิบัติตนเป็นผู้มีความเสียสละ โดยวิธี
ดังนี้
๑. เป็นผู้มีความเสียสละอยู่เสมอ
เราควรปฏิบัติตนเป็นผู้เสียสละจนเป็นนิสัย
เพื่อให้ผู้อื่นเห็นเป็นแบบอย่าง และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
เพื่อให้เกิดเครือข่าย เป็นสังคมแห่งการเสียสละ
๒. อธิบายความสำคัญของการเสียสละ
บอกคุณค่าและผลดีที่เกิดจากการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความเสียสละให้คนทั่วไปได้รับทราบ
และชักชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติตนเพื่อเสียสละแก่สังคมอยู่เสมอ
๓. เผยแพร่ความรู้เรื่องการเสียสละ
ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการเสียสละ
เช่น กรณีตัวอย่างบุคคลที่เสียสละช่วยเหลือผู้อื่น ในหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์
หรืออินเทอร์เน็ตแล้วนำมาเล่าให้ผู้อื่นฟัง
๔. เข้าร่วมในกิจกรรมที่เป็นการเสียสละ
มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
ที่ช่วยส่งเสริมการเสียสละต่อผู้อื่นอยู่เสมอ
และชักชวนคนรอบข้างให้เข้าร่วมในกิจกรรมด้วย
การที่เราปฏิบัติตนเป็นผู้ที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม
ย่อมส่งผลดีทั้งต่อตัวเราเองและผู้อื่น ผลที่เกิดขึ้นกับตัวเรา คือ
เกิดความภาคภูมิใจในตนเองและผู้อื่น คือ ผู้ที่มีความเดือดร้อนได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ยังช่วยให้สังคมส่วนรวมมีความสงบเรียบร้อย เป็นสังคมเห็นการแบ่งปัน
ช่วยเหลือซ่งกันและกันสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น